พ.ศ. 2505 ศาสตราจารย์นายแพทย์อำนวย เสมรสุต หัวหน้าแผนกวิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลขณะนั้น เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง รังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย

ศาสตราจารย์นายแพทย์หลวงพิณพากย์พิทยาเภท ดำรงตำแหน่งนายกรังสีวิทยาสมาคมฯ เป็นคนแรกท่านอยู่ใน ตำแหน่งนี้นาน 14 ปี ศาสตราจารย์ นายแพทย์อำนวย เสมรสุต เป็นอุปนายกและศาสตราจารย์นายแพทย์โรจน์ สุวรรณสุทธิ เป็นเลขาธิการสมาคม

พ.ศ. 2535 ศาสตราจารย์นายแพทย์ร่มไทร สุวรรณิก อดีตนายกสมาคมฯ เป็นผู้ดำเนินการขอก่อตั้งวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ต่อแพทยสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2535 ขณะนั้น ศาสตราจารย์นายแพทย์กวี ทังสุบุตร เป็นนายกรังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย

25 ธันวาคม พ.ศ. 2536 มีการรวมกลุ่มของสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางแห่งประเทศไทยขึ้นโดยมี ศาสตราจารย์นายแพทย์อรุณ เผ่าสวัสดิ์ เป็นประธานกลุ่มวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย มีรองศาสตราจารย์นายแพทย์บุญเที่ยง ศีติสาร เป็นประธานได้นำวิทยาลัยรังสีแพทย์ฯเข้าร่วม อยู่ในกลุ่มสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางแห่งประเทศไทยด้วยกลุ่มสถาบันฯนี้ประกอบด้วย 5 ราชวิทยาลัยและ 4 วิทยาลัยเพื่อให้กลุ่มสถาบันฯ มีความเป็นปึกแผ่นพร้อมเพรียงสามารถดำเนินกิจการต่างๆ ให้เป็นไปได้ดีที่สุดในทุกๆ ทาง

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2537 ศาสตราจารย์นายแพทย์อรุณ เผ่าสวัสดิ์ ประธานกลุ่ม ทำหนังสือถึงราชเลขาธิการในพระองค์เพื่อกราบบังคมทูล พระกรุณาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทพร้อมกับขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณทรงรับวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อสถาปนาเป็น “ราชวิทยาลัย”

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทยไว้ในพระบรม ราชูปถัมภ์และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สถาปนาเป็น ”ราชวิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย” เป็นราชวิทยาลัยที่ 6 ที่ได้เกิดขึ้นนับเป็น พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 13 มีนาคม 2540

ปีพุทธศักราช 2539 มีการจัดการประชุมทางวิชาการแพทย์สาขาเฉพาะทางต่างๆเป็นการประชุมนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยจัดขึ้นมาก่อน ในประเทศไทยทั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในมหามงคลสมัยที่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาเป็นปีที่ 50 เพื่อ ให้องค์ประกอบของสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะ ทางฯมีสถานภาพเหมือนกันหมด